มาตรการเคลียร์สิวให้หมดไป ยิ้มรับหน้าใสอย่างเร่งด่วน


  ด้วยนวัตกรรมในการปรนนิบัติผิวอัจฉริยะ เพื่อคืนผิวใสให้กับใบหน้าที่ทาง “คลิทิน่า” ได้รังสรรค์ขึ้นมาสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวโดยเฉพาะ ยุติปัญหาสิวตั้งแต่ต้นเหตุ คืนผิวหน้าเรียบเนียนใส ไร้ความมันวาว พร้อมคงสมดุลแห่งความชุ่มชื่นอย่างยาวนานให้กับผิวสวยใสของคุณให้น่าสัมผัสไปอีกนาน
Chlitina Anti-Acne Clear Program โปรแกรมพิชิตสิวสุดพิเศษ เพื่อผิวหน้าสวย ใส ไม่ระคายเคืองแม้ผิวแพ้ง่าย ด้วยนวัตกรรมของสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติบริสุทธิ์ ให้คุณค่าการบำรุงประสิทธิภาพเข้มข้น บำรุงลึกถึงผิวชั้นใน ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ปรับสภาพผิวหน้า รูขุมขนที่เคยอักเสบ แดงช้ำ สิวอักเสบ สิวอุดตัน   พร้อมฆ่าเชื้อสิวและสิ่งสกปรกให้เลือนหายได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็น ด้วยเทคนิคการเก็บสิวเฉพาะคลิทีน่าเท่านั้น เพื่อคุณคนพิเศษ

"สิว" ศัตรูตัวฉกาจขนาดจิ๋วแต่มีพลังทำลายล้างความสวยและความมั่นใจในระดับที่เรียกว่า “บิ๊กบอส” เป็นปัญหาอันดับต้นๆของสาวๆทั้งหลาย ที่ก่อให้เกิดความรำคาญ และบั่นทอนความมั่นใจ  ไม่กล้าออกไปไหน ไม่กล้าที่จะพบเจอ หรือสบตาใคร จนส่งผลถึงบุคลิกภาพ  เพราะผิวหน้าใส ไร้สิวนั้น เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนา แต่การที่จะมีผิวหน้าสวยเรียบเนียนนั้นจะต้องมีเวลาในการดูแล บำรุงเป็นอย่างมาก แต่หากคุณไม่มีเวลามากพอ คลิทีน่าขอเสนอ โปรแกรมปรนนิบัติผิวเพื่อหน้าใส ไร้สิว ด้วยการขจัดสิวอย่างมืออาชีพ ปัญหาเหล่านี้จะขจัดและทุเลาได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเทคนิคการเก็บสิวที่พิเศษเฉพาะตัวของคลิทีน่า ไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็น และจุดด่างดำให้กวนใจ ขจัดสารพิษใต้ผิว ไขมันอุดตัน แบคทีเรีย ลดอาการอักเสบ เคลียร์ปัญหาสิวเก่า ป้องกันการเกิดสิวใหม่ ปรับผิวหน้าให้สวยใสไร้สิวอย่างเป็นธรรมชาติ 

ลดการอุดตันของไขมันใต้ผิวหนัง
บรรเทาอาการอักเสบของผิว
ขจัดสิวได้อย่างมืออาชีพ
ปรับสมดุลน้ำมันใต้ผิว
ลดเลือนรอยดำ รอยแดงจากสิว
ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เผยผิวใหม่ไร้สิว 

แอดเราเป็นเพื่อน เพื่อติดตามผ่านช่องทางอื่นๆได้ที่นี่เลยค่ะ
  

สาระความรู้และความงามน่าสนใจแบบนี้ แชร์แบ่งปันให้เพื่อนรู้บ้างสิ.....แชร์เลย!!!!

ไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัย อย่าปล่อยให้ผิวขาดน้ำ



           หน้าร้อนแบบนี้ ปัญหาผิวที่คุณควรเป็นกังวล ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำจากแสงแดดเท่านั้น แต่ความร้อนทำให้ผิวระคายเคือง และสูญเสียความชุ่มชื้น สังเกตง่าย ๆ จากปริมาณเหงื่อที่คุณสูญเสียไปจากเซลล์ผิวหนังชั้นนอก นี่แหละค่ะทำให้เป็นปัญหาผิวของสาว ๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ผิวขาดน้ำ
           อาการผิวขาดน้ำนั้นใกล้เคียงกับผิวแห้งมาก แต่จะต่างกันตรงที่จะมีทั้งความมันและแห้งแบบไม่เป็นเวลา เพราะกลไกของผิวเกิดการทำงานแบบชะงัก เนื่องจากขาดสารหล่อเลี้ยงที่สำคัญ นั่นคือน้ำ ที่เป็นส่วนประกอบพื้นฐานหลักของผิวหนัง  ไม่เฉพาะแต่สาว ๆ ที่ต้องทำงาน Outdoor เท่านั้นนะคะ สาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ ก็เผชิญกับอาการผิวขาดน้ำได้ เนื่องจากเครื่องปรับอากาศ เพราะเครื่องปรับอากาศจะดึงเอาความชื้นในอากาศออกไป อากาศจึงแห้งขึ้น
                ซึ่งอาการเบื้องต้นที่แสดงว่าผิวคุณเริ่มขาดน้ำ มีตั้งแต่แต่งหน้าไม่ติด หรือไม่อยู่ทน ลงครีมบำรุงไม่ค่อยซึม เกลี่ยรองพื้นยากและเป็นขุย ไม่เรียบเนียน  มิหนำซ้ำ ผิวขาดน้ำทำให้ผิวดูหยาบกระด้าง เวลาสัมผัสที่บริเวณผิวหน้า จะขาดความยืดหยุ่น ตึง ขาดความนุ่มกระชับและกร้านมากขึ้น นั่นเป็นเสมือนสัญญาณ S.O.S ที่ร่างกายส่งมาให้เราได้รับรู้ เพราะฉะนั้นหากใครไม่อยากพบเจอปัญหานี้ รีบเติมน้ำให้ผิวอย่างด่วนเลยค่ะ ด้วย.....


สารบำรุงประเภท Hydration
           ถ้าคุณใช้เครื่องสำอางประเภท Anti-aging  หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่มีส่วนผสมของ hydrogen peroxide, retinoic acid, benzoyl peroxide เป็นต้น ส่วนใหญ่จะยิ่งทำให้ผิวขาดน้ำมากขึ้น ให้หันมาเติมน้ำให้ผิวด้วยครีมหรือเจลตระกูล Hydration มากขึ้นเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ กระบวนการของเซลล์ผิวหนังก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ง่ายต่อการบำรุง หรือแต่งหน้า ลดอาการขาดน้ำของผิวไปได้ค่ะ


อย่านอนดึก 
           เรารู้ดีกันอยู่แล้วว่า พักผ่อนไม่เพียงพอไม่ดีต่อร่างกาย แน่นอนว่าไม่ดีต่อผิวคุณด้วยค่ะ เพราะการพักผ่อนอย่างเพียงพอจะทำให้ร่างกายได้มีการฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่งผลให้ผิวเราได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่


บำรุงผิวจากภายใน ดื่มน้ำให้มากขึ้น 
           การดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้ว เป็นการบำรุงจากภายในที่ทำได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ได้ประโยชน์ทั้งร่างกาย เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกาย เฉลี่ย 50 – 60 % ของน้ำหนักตัว วิธีคิดง่ายว่าวันนึงเราควรจะดื่มน้ำเท่าไหร่ คิดง่าย น้ำหนักตัวเป็นหน่วยกิโลกรัม ไปคูณกับ 30 จะได้ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน ซึ่งมีหน่วยเป็น มิลลิลิตร (เช่น 45 กิโลกรัม x 30 = 1,350 มิลลิลิตร หรือ 1.35 ลิตรต่อวัน) ยิ่งช่วงนี้อากาศร้อนยังกับอะไรดี หากขาดน้ำในช่วงนี้ ไม่เพียงแค่ผิวจะไม่สวยแต่อาจจะป่วยได้ด้วยนะคะ  


ทรีทเมนท์เติมความชุ่มชื้น
           ผิวขาดน้ำนั้นแก้ง่าย ๆ ค่ะ วิธีที่เห็นจะง่าย และตรงจุดที่สุด ก็ให้ปรนนิบัติผิวหน้าด้วยการทำทรีทเมนท์ที่เป็นสูตร Hydration ที่ช่วยเติมน้ำเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก แถมยังเปลี่ยนผิวที่เคยดูโทรม ให้กลับมาเปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวาอีกด้วยนะคะ

ไม่ยากเลยใช่มั๊ยคะสาวๆกับวิธีที่เรานำมาฝากกัน รับรองเลยว่าหากใครทำตามนี้แล้วละก็ ผิวไม่ชุ่มชื้น เนียนนุ่มน่าสัมผัสก็ให้มันรู้ไป



 แอดเราเป็นเพื่อน เพื่อติดตามผ่านช่องทางอื่นๆได้ที่นี่เลยค่ะ
  

สาระความรู้และความงามน่าสนใจแบบนี้ แชร์แบ่งปันให้เพื่อนรู้บ้างสิ.....แชร์เลย!!!!

ผิวไหม้แแดดอย่าได้แคร์ ฟื้นฟูง่าย ๆ ด้วย 9 สูตรธรรมชาติ


                ผิวไหม้จากแสงแดดเป็นอะไรที่ใครเจอก็คงอดกังวลไม่ได้ เพราะถ้าพลาดให้แดดมาเลียผิวจนไหม้แดงก็จะรู้สึกแสบร้อน ที่สำคัญผิวที่เคยนุ่มเนียนก็จะแห้งกร้าน ดำคล้ำ และกว่าจะฟื้นฟูให้ผิวกลับมามีสุขภาพดีดังเดิมก็ไม่ใช่ง่าย ๆ เอาเป็นว่าใครที่ยังไม่คิดตกว่าจะหาทางออก รวมถึงวิธีแก้ปัญหา-ดูแลผิวเสียอย่างไรดี เรามีวิธีดี ๆ ดูแลผิวมาฝากกันเพียบเลยค่ะ  
     
1.  หยุดซ้ำเติมผิวที่คล้ำเสียด้วยการงดออกแดดสักพัก โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00-17.00 น. แต่ถ้าหากจำเป็นจริง ๆ ก็ควรกางร่ม หรือใส่เสื้อคลุมแขนยาวทุกครั้งเวลาที่ต้องออกแดด


2. ทาโลชั่นบำรุงผิวสูตรอ่อนโยน เน้นแบบที่มีส่วนผสมสารกัดจากธรรมชาติที่ช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสีย ทำให้ผิวชุ่มชื้น และกระจ่างใสขึ้น
3. งดใช้ครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวสูตรไวท์เทนนิ่งประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะไวท์เทนนิ่งจะทำให้ผิวที่บอบบางอยู่แล้วบอบบางกว่าเดิม ทางที่ดีควรปล่อยให้ผิวฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมก่อนแล้วค่อยใช้ไวท์เทนนิ่งบำรุงจะดีที่สุด
4. ช่วงนี้ควรล้างหน้าด้วยสบู่ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน (แบบไม่มีสครับ) จะดีที่สุด เพราะผิวอยู่ในช่วงบอบบาง บางคนอาจมีอาการปวดแสบปวดร้อน ซึ่งการใช้สบู่สูตรแรง ๆ จะเป็นการซ้ำเติมผิวให้เสียหรือระคายเคืองมากยิ่งขึ้น


5. ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพราะครีมกันแดดจะช่วยไม่ให้ผิวคล้ำเสียมากไปกว่าเดิม และถ้าจะให้ดีที่สุดช่วงนี้ควรใช้ครีมกันแดดที่สามารถบำรุงผิวได้ในตัวจะดีกว่า
6. งดขัดผิวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพราะผิวกำลังอยู่ในช่วงที่อักเสบและบอบบาง หากขัดผิวในช่วงนี้จะเป็นการซ้ำเติมผิวให้เสียหนักไปกว่าเดิม แต่หลังจาก 2 สัปดาห์ไปแล้วสามารถขัดผิวด้วยสครับสูตรอ่อนโยนได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกและเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสกว่าเดิม
7. ดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ วันหนึ่งควรดื่มให้ได้อย่างน้อย 8 แก้ว ซึ่งจะเป็นการทดแทนน้ำบนผิวที่สูญเสียไปหลังจากตากแดดแรง ๆ ซึ่งจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและสดใสขึ้นด้วย


8. บำรุงผิวด้วยแตงกวา พราะแตงกวาจะช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ทำให้ผิวโทรม ๆ ดูกระจ่างใสและมีชีวิตชีวาขึ้นได้ โดยการนำแตงกวามาสไลซ์เป็นแผ่นบาง ๆ นำไปแช่เย็นไว้สักพัก จากนั้นนำมาวางแปะไว้บนผิว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ทำเป็นประจำทุกวัน รับรองผิวสวยเด้ง
9. ทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อฟื้นฟูผิวจากภายใน โดยช่วงนี้ให้เน้นทานอาหารจำพวกผักใบเขียวและผลไม้ เพราะผักและผลไม้นั้นอุดมไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิดที่จำเป็นต่อการบำรุงผิวอย่างยิ่ง


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีที่ง่ายและดีที่สุดสำหรับผิวพรรณของคุณสาวๆ คือการป้องกันด้วยการดูแลและหมั่นบำรุงผิวตั้งแต่แรก ดีกว่าปล่อยให้ผิวเสีย เสื่อมโทรม แล้วจึงค่อยมาแก้ไขนะคะ 

แอดเราเป็นเพื่อน เพื่อติดตามผ่านช่องทางอื่นๆได้ที่นี่เลยค่ะ
  

สาระความรู้และความงามน่าสนใจแบบนี้ แชร์แบ่งปันให้เพื่อนรู้บ้างสิ.....แชร์เลย!!!!

ผิวหน้าเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร ...แบบนี้ต้องรีบดูแลโดยด่วน !


                หากเลือกได้ เชื่อเลยว่าร้อยทั้งร้อยสาว ๆ ทุกคนล้วนต้องการให้ผิวหน้าดูกระชับเต่งตึงสดใสอยู่เสมอ แต่ทว่าในความเป็นจริงนั้นกฎธรรมชาติไม่มีใครสามารถหยุดริ้วรอยและความเสื่อมโทรมของผิวได้ จึงทำให้สาว ๆ ทุกคนต่างเร่งฟื้นฟูและดูแลผิวกันอย่างเร่งด่วน (แหม..ก็คนมันไม่อยากแก่นี่เนอะ^^) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาว ๆ ที่มีปัญหาผิวเหี่ยวย่นแก่ก่อนวัย ยิ่งจำเป็นจะต้องแก้ไขและใส่ใจผิวให้มากยิ่งขึ้น               
                ผิวเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเสื่อมสภาพของอีลาสตินใต้ผิวหนัง อันเนื่องมาจาก ขาดการบำรุงผิวเป็นเวลานาน ความเครียด แสงแดด กรรมพันธุ์ และพฤติกรรมส่วนตัวอย่าง การกินอาหาร ล้างถูหน้าแรง ๆ ขมวดคิ้ว จนทำให้เซลล์ผิวหนังเสียความชุ่มชื่นและความยืดหยุ่นน้อยลง เกิดเป็นริ้วรอยตื้น ๆ ในบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา ขมับ และร่องแก้มในที่สุด วันนี้เราจึงขอนำเคล็ดลับดูแลผิวมีริ้วรอย เพื่อให้สาว ๆ ได้นำไปปรับใช้ในการดูแลผิวในชีวิตประจำวัน และช่วยให้ผิวกลับมาสดใสอ่อนเยาว์ได้มากยิ่งขึ้น


ครีมกันแดด ห้ามขาด !
เพราะอากาศและแสงแดดในบ้านเรานับว่า ร้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นเพื่อไม่ให้ผิวหน้าโดนรังสียูวีทำร้ายผิวให้เหี่ยวย่นเกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำ สาว ๆ ควรปกป้องก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง (แม้ว่าจะไม่มีแดดก็ตาม) โดยการเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปทาให้ทั่วหน้าและลำคอ จากนั้นจึงแต่งหน้าหรือทาแป้งตามปกติ

 รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินแก่ผิวพรรณ และออกกำลังกาย
หลังจากดูแลผิวภายนอกแล้ว อย่าละเลยดูแลผิวสวยตึงกระชับจากภายในกันบ้าง ด้วยการเลือกรับประทานผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี รวมถึงอาหารจำพวกนมและธัญพืชเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังควรออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดในร่างกาย รวมถึงนอนพักผ่อนให้เพียงพออีกด้วยค่ะ

Face  yoga
โยคะบริหารผิวหน้า นับเป็นเคล็ดลับหน้าเด็กง่าย ๆ ที่สาว ๆ สามารถทำเองได้ทุกวันและทุกเวลา เพียงแค่ออกเสียงหรืออ้าปากในท่า อะ อิ อุ เอะ โอะ ค้างไว้ท่าละ 5 วินาที ทำทุกวันจะช่วยยกกระชับแก้มย้อย หน้าเหี่ยวให้ดูเด้งเต่งตึงแน่นอนค่ะ

เลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอย
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ชอบสะสมความเครียด นอนน้อย ดื่มกาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าน้ำเปล่า ควรเปลี่ยนหรือเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านั้นโดยเด็ดขาด เพราะนี่แหละคือตัวการที่ทำให้ผิวเหี่ยวย่นทำให้คุณดูแก่กว่าอายุจริง นอกจากนี้สาว ๆ ยังไม่ควรขยี้ตา ล้างเครื่องสำอาง หรือเช็ดถูหน้าแรง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดรอยย่นหย่อนยานเพิ่มมากขึ้น


เติมความชุ่มชื่นให้ผิวมากยิ่งขึ้น
เพื่อเป็นการกระตุ้นการสร้างการทำงานและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนัง สาว ๆ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงให้เหมาะกับสภาพผิว รวมถึงควรเติมความชุ่มชื่นให้ผิวให้อยู่เสมอ แม้ว่าคุณจะมีผิวมันก็ตาม ด้วยผลิตภัณฑ์ประเภท Hydration ที่สามารถมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างยาวนาน รวมถึงป้องกันน้ำระเหยออกจากผิวอีกด้วย

ทำทรีทเม้นท์ยกกระชับผิวหน้า
เช่น การทำทรีทเมนท์ที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุ หรือ RF ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นให้ผิวหน้าเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ และมีการรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ ทำให้เมื่อทำทรีทเมนท์เป็นประจำแล้ว จะทำให้สามารถลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึขึ้นได้อย่างชัดเจน


          ทราบวิธีดูแล รวมถึงทางแก้ผิวเหี่ยวย่นและริ้วรอยกันไปแล้ว คงต้องบอกว่าสาว ๆ จะละเลยผิวหน้าไม่ได้อีกต่อไป เพราะเมื่อริ้วรอยมาเยือนแล้วกว่าจะปรับเปลี่ยนหรือฟื้นฟูให้ดีขึ้น นับว่าต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก ยังไงกันไว้ก่อนเสียแต่ตอนนี้ อาจดีกว่าต้องมานั่งแก้กันทีหลังนะคะ ^^

แอดเราเป็นเพื่อน เพื่อติดตามผ่านช่องทางอื่นๆได้ที่นี่เลยค่ะ
  

สาระความรู้และความงามน่าสนใจแบบนี้ แชร์แบ่งปันให้เพื่อนรู้บ้างสิ.....แชร์เลย!!!!

Popular Posts

Recent Posts

Text Widget

ขับเคลื่อนโดย Blogger.
Copyright © ทรีทเม้นท์ของเรา | Powered by Blogger
Design by Viva Themes | Blogger Theme by NewBloggerThemes.com